Yesung Twitter 9 Septomber 2012

Published กันยายน 9, 2012 by shfly3234

Image

Yesung Twitter

지금만나러갑니다 .. 하지만 해바라기들은 모두고개를숙이고있었다….

[TRANS] @shfly3424: ผมกำลังจะไปพบคุณ .. แต่ ดอกทานตะวันมันบานสวยมาก..

Image

ImageImage

                                                     Image  ImageImage

 

บริการบนอินเตอร์เน็ต

Published กรกฎาคม 17, 2012 by shfly3234

Email Address คืออะไร

จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (electronic mail, ย่อ e-mail หรือ email) คือวิธีการในการเขียนส่ง หรือรับข้อความผ่านทางการเครือข่ายเชื่อมโยงระบบอิเล็กทรอนิกส์ คำว่า อีเมลใช้ใน 2 ความหมาย รวมถึงการส่งข้อความผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยผ่านทาง SMTP และการส่งข้อความภายในเครือข่ายของบริษัทหรือองค์กรโดยผ่านทางระบบมาตรฐานที่ต่างกันออกไป

Mailing lists คือ

กลุ่มรายชื่อของอีเมล์ซึ่งเมื่อคุณส่งอีเมล์ไปที่ mailing lists นั้น mailing lists จะช่วยทำการกระจายไปให้กับอีเมล์ที่อยู่ในกลุ่มโดยอัตโนมัติ เช่น สมมุติว่าคุณตั้งชื่อ maling list ว่า group@domain.com แล้วก็นำเอาอีเมล์ของผู้ที่ต้องการอยู่ในกลุ่มมาลงทะเบียนไว้กับโปรแกรมจัดการ mailing list ดังนั้นเมื่อบุคคลในกลุ่ม mailing lists ส่งอีเมล์ไปที่ group@domain.com ระบบก็จะช่วยทำการกระจายให้กับทุกคนในกลุ่ม วิธีการสร้าง mailin lists

communication คือ

การสื่อสาร ซึ่งถ้าเป็นการสื่อสารกับคนหมู่มาก หรือ วื่อสารมวลชน คือ Mass communication ส่วนการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ inter- personal communication นอกจากนี้ยังมีการสื่อสารอีกหลายประเภท แล้วแต่ว่าใครเป็นผู้ส่งสารให้ใคร และเป็นสารประเภทไหน

communication คืออะไร

การสื่อสาร ซึ่งถ้าเป็นการสื่อสารกับคนหมู่มาก หรือ วื่อสารมวลชน คือ Mass communication ส่วนการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ inter- personal communication นอกจากนี้ยังมีการสื่อสารอีกหลายประเภท แล้วแต่ว่าใครเป็นผู้ส่งสารให้ใคร และเป็นสารประเภทไหน

Social Networking web site คืออะไร

คือการที่ผู้คนสามารถทำความรู้จัก และเชื่อมโยงกันในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง หากเป็นเว็บไซต์ที่เรียกว่าเป็น เว็บ Social Network ก็คือเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกันนั่นเอง ตัวอย่างของเว็บประเภทที่เป็น Social Network เช่น Digg.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เรียกได้ว่าเป็น Social Bookmark ที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง และเหมาะมาก ที่จะนำมาเป็นตัวอย่าง เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยในเว็บไซต์ Digg นี้ ผู้คนจะช่วยกันแนะนำ url ที่น่าสนใจเข้ามาในเว็บ และผู้อ่านก็จะมาช่วยกันให้คะแนน url หรือข่าวนั้น ๆ เป็นต้น

Blog คืออะไร

Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำ ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog)

Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง

Wiki คืออะไร

ตัว wiki เองสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ที่จะทำสารานุกรมออนไลน์ สิ่งที่สารานุกรมนำเสนอคือความหมาย คำจำกัดความ ความรู้ และข้อมูลประกอบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำคำหนึ่ง ๆ โดยระบบเปิดให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถเข้ามาสร้าง แก้ไข ตรวจสอบเนื้อหาและข้อมูลต่าง ๆ ได้ (ข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับใน wikipedia จะต้องเป็นข้อมูลที่มีบทความตีพิมพ์อ้างอิงเท่านั้น)

ส่วนโปรแกรม MediaWiki เองสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลายแบบ แต่ต้องเข้าใจ Concept การจัดการเนื้อหาของระบบ wiki ก่อนถึงจะใช้ได้สะดวก สำหรับคนที่เคยใช้ระบบ Content Management System (CMS) ตัวอย่างเช่น Joomla หรือ เคยใช้งาน Blog เช่น WordPress แล้วมาใช้งาน MediaWiki ครั้งแรกจะงงกับวิธีใช้งาน เพราะทั้ง CMS และ Blog จะมีการเพิ่มเนื้อหาในรูปแบบ Content ใหม่ ๆ เรียงตามลำดับวันที่เพิ่มเข้าไปเรื่อย ๆ เราสามารถดูจากหน้าแสดงข้อมูลทั้งหมดได้ แต่ Wiki สิ่งที่เราสร้างคือหน้าบทความ จะไม่มีการอ้างถึง Aricle ID หรือ Content ID แต่บทความที่สร้างหรือใน wiki เรียกว่าหน้า (Page) นั้นจะเข้าถึงโดยใช้ชื่อหน้านั้น ๆ ประกอบกับหมวดหมู่ (Category) เช่น Special:Contact_Page และการเชื่อมโยงระหว่างหน้าจะทำโดยการใส่ Link เชื่อมโยง หรือการค้นหาโดย Search Page

สรุปคือวิธีการใช้งาน wiki จะทำในลักษณะเหมือนกับเราเขียนหนังสือขึ้นมา (แต่อาจเขียนหลาย ๆ เล่ม และสามารถเชื่อมโยงหากันได้) มีบทความหลาย ๆ บทความประกอบกัน เราสามารถสร้างสารบัญเนื้อหาขึ้นเองได้ ทำให้การเข้าถึงข้อมูลของผู้ที่มาดูเว็บถูกจัดให้เข้าถึงอย่างเป็นลำดับตามที่เจ้าของ wiki วางโครงสร้างไว้นั่นเอง

มีหลาย ๆ เว็บที่นำ wiki มาเป็น Engine นำ Content ขึ้นแสดงแทนที่จะใช้โปรแกรม CMS เพราะลูกเล่นในการเชื่อมโยงเนื้อหา ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลที่ดีกว่า CMS ทั่ว ๆ ไป และการใช้งานยังง่าย (ถ้าเข้าใจวิธีใช้แล้ว) เพราะเจ้าของเว็บสามารถแก้ไขข้อมูลจากหน้าเว็บได้เลย อีกทั้งมี Extensions ให้ลงเพิ่มเพื่อเพิ่มความสะดวกและลูกเล่นอื่น ๆ อีก เช่น Text Editor สำหรับ wiki, Contact Us Page หรือการใส่เนื้อหาจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ เช่น Flickr, GoogleMap เป็นต้น

Remote login / telnet คืออะไร

Telnet (Remote Login) เป็นบริการเข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์ระยะไกลคะ 
ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะตั้งอยู่ใกล้หรือไกลก็ตาม  ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยตรง  ซึ่งการที่เราจะเข้าไปควบคุมได้นั้น เราจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ควบคุมเครื่องนั้น ๆ ด้วย   โดยผู้ใช้จะต้องมีชื่อบัญชีและรหัสผ่านที่กำหนดไว้ให้สำหรับเข้าไปใช้งานด้วยคะ

File transfer  protocol คืออะไร

File Transfer Protocol (FTP) คือ โพรโทคอล ที่ใช้ถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต คนทั่วไปมักใช้ FTP เพื่อทำให้แฟ้มข้อมูลมีอยู่พร้อมเพื่อให้บุคคลอื่นสามารถดาวน์โหลดได้ แต่อย่างไรก็ดี คุณยังสามารถใช้ FTP เพื่ออัปโหลดเว็บเพจสำหรับการสร้างเว็บไซต์ หรือสำหรับวางรูปถ่ายดิจิทัลลงบนไซต์การใช้รูปภาพร่วมกัน

Usernet คืออะไร

Usenet มาจากคำว่า “User’s Network”  คือ ระบบนิวส์กรุ๊ป (newsgroup) หนึ่ง ที่มีส่วนให้อภิปรายมากกว่า 14,000 หัวข้อ เปรียบเสมือนบอร์ดข่าวสารบนอินเตอร์เนต ที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถนำข่าวสาร หรือความคิดเห็นของตนเองมาใส่ไว้ เพื่อให้ผู้อื่นได้อ่าน โดย Usenet จะมีกลุ่มสนทนาและแลกเปลี่ยนข้อมูลในหัวข้อต่าง ๆ ที่เรียกว่า กลุ่มข่าว หรือ นิวส์กรุ๊ป (Newsgroup) และเพื่อสะดวกในการใช้งานของผู้ใช้ usenet จึงทำการแบ่งหมวดหมู่ โดยใช้ชื่อของกลุ่มข่าว เพื่อสื่อความหมายด้วยนะคะ  เช่น comp เป็นประเภทกลุ่มข่าวคอมพิวเตอร์,  misc เป็นประเภทกลุ่มข่าวสัพเพเหระทั่วไป ที่จัดกลุ่มไม่ได้ เป็นต้น

World wide web คืออะไร

World Wide Web หรือที่เรามักเรียกสั้นๆว่า Web หรือ W3 (WWW) คือ คอมพิวเตอร์ส่วนหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต ที่ถูกเชื่อมต่อกันในแบบพิเศษที่ทำให้คอมพิวเตอร์เหล่านั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลเนื้อหาที่เก็บไว้ภายในของแต่ละเครื่องได้ (กลายเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่) โดยผ่านทาง บราวเซอร์ (Browser) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้อ่านและตอบโต้ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ใน World Wide Web โดยเฉพาะ บราวเซอร์ที่พบเห็นได้มากที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่ Internet Explorer ของ และ Firefox

Electronic  commerce คืออะไร

EE-Commerce หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่องค์กรได้วางไว้ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทองค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้า เป็นต้น จึงลดข้อจำกัดของระยะทาง และเวลาลงได้ 

ความหมายและพัฒนาการของอินเตอร์เน็ต

Published กรกฎาคม 17, 2012 by shfly3234

อินเตอร์เน็ต (Internet)   คือ  เครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกัน มาจากคำว่า Inter Connection Network

อินเทอร์เน็ต (Internet)  เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดใหญ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องทั่วโลก สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้ โดยใช้มาตรฐานในการรับส่งข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียว หรือที่เรียกว่าโปรโตคอล (Protocol) ซึ่งโปรโตคอล ที่ใช้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีชื่อว่า ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP : Transmission Control Protocol/Internet Protocol)

       พัฒนาการของอินเตอร์เน็ต

        ปี พ.ศ. 2500 (1957) โซเวียดได้ปล่อยดาวเทียม Sputnik ทำให้สหรัฐอเมริกาได้ตระหนักถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้น ค.ศ. 2512 (1969) กองทัพสหรัฐต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงทางการทหาร และความเป็นไปได้ในการถูกโจมตี ด้วยอาวุธปรมาณู หรือนิวเคลียร์ การถูกทำลายล้าง ศูนย์คอมพิวเตอร์ และระบบการสื่อสารข้อมูล อาจทำให้เกิดปัญหาทางการรบ และในยุคนี้ ระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีหลากหลายมากมายหลายแบบ ทำให้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และโปรแกรมกันได้ จึงมีแนวความคิด ในการวิจัยระบบที่สามารถ 
เชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์ และแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างระบบที่แตกต่างกันได้ ตลอดจนสามารถรับส่งข้อมูลระหว่างกัน ได้อย่างไม่ผิดพลาด แม้ว่าคอมพิวเตอร์บางเครื่อง หรือสายรับส่งสัญญาณ เสียหายหรือถูกทำลาย กระทรวงกลาโหมอเมริกัน (DoD = Department of Defense) ได้ให้ทุนที่มีชื่อว่า DARPA (Defense Advanced Research Project Agency) ภายใต้การควบคุมของ Dr. J.C.R. Licklider ได้ทำการทดลอง ระบบเครือข่ายที่มีชื่อว่า DARPA Network และต่อมาได้กลายสภาพเป็น ARPANet (Advanced Research Projects Agency Network) และต่อมาได้พัฒนาเป็น INTERNET ในที่สุด